ยำปลาแห้งใส่วุ้นเส้น

ตั้งแต่สมัยโบราณ จาก บรรพบุรุษ จนถึงปัจจุบัน ได้ให้ความรู้เรื่องการถนอมอาหารที่ทำจากปลาอย่างเช่น   ปลาย่าง หรือ ปลาย่างรมควัน  สำหรับการรมควัน (smoking) เป็นวิธีการถนอมอาหาร (food preservation) โดยการใช้ควันที่ได้จากการเผาไหม้ร่วมกับ ความร้อนที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ สุก แห้ง และมีกลิ่นรสของควันไฟ โดยปลาที่นิยมนำมาทำเป็น ปลาย่าง หรือ ปลาย่างรมควัน นั้นจะมี ปลาสวาย ปลาสร้อย ปลากด ปลาเนื้ออ่อน ปลากราย ปลาฉลาด ปลาดุก ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลากะสง

          รศ.ครรชิต จุดประสงค์ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ทำวิจัยเรื่อง “ปริมาณไขมันทั้งหมด กรดโอเมกา 6 และกรดโอเมกา 3 ในปลาทะเลและปลาน้ำจืดของไทย” กล่าวว่าจากการศึกษาที่ผ่านมาทำให้ทราบว่า ทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเลของไทย ล้วนมีโอเมกาเช่นกัน เพียงแต่ปลาน้ำจืดต้องเป็นปลาเลี้ยงเท่านั้น เนื่องจากโดยทั่วไปกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่างโอเมกา 3 และ 6 จะพบเฉพาะในปลาทะเลน้ำลึก อย่างแซลมอนเพราะจะสร้างและสะสมไขมันจากการกินแพลงตอนทะเล ดังนั้นในปลาน้ำจืดจึงไม่พบเลย แต่ในปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดเพื่อการค้า หรือปลาทะเลที่เลี้ยงก็เช่นกันจึงทำให้อาหารที่ใช้เลี้ยงปลามักเป็นส่วนที่เหลือจากการผลิตจากโรงงานปลากระป๋อง ทำให้อาหารปลามีโอเมกา 3 และโอเมกา 6 ด้วย ไขมันที่อยู่ในปลาเลี้ยงจึงมีแหล่งของกรดไขมันเหล่านี้ด้วย เช่นเดียวกับที่ได้รับจากการกินปลาแซลมอน ซึ่งมีราคาแพง ดังนั้นปลาไทยจึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของคนไทย ในปลาสวายเลี้ยงจะมีไขมันทั้งหมด 8.9 กรัม เป็นโอเมกา 6 อยู่ที่ 0.60 กรัม เป็นโอเมกา 3 อยู่ที่ 0.45 กรัม และในปลาช่อนมีไขมันทั้งหมด 8.5 กรัม เป็นโอเมกา 6 อยู่ที่ 0.77 กรัม เป็นโอเมกา 3 อยู่ที่ 0.44 กรัม

ในการทำยำปลาแห้งเรามักจะใช้ปลาสวายแห้ง หรือปลาช่อนแห้งมาทำยำ ปลาสวายและปลาช่อนนอกจากจะมีโปรตีนแล้ว ยังมีกรดไขมัน มีโอเมกา 3 และโอเมกา 6 ด้วย ยำปลาแห้งใส่วุ้นเส้น เป็นอาหาร สูตรพื้นเมืองเหนือ มีลักษณะคล้ายแกง ที่คนเหนือเรียกว่ายำ ซึ่งเป็นการยำเหมือนยำจิ้นไก่ ใส่น้ำพริกลาบลงไป ถ้าเป็นไก่ก็เรียกยำจิ้นไก่ ถ้าเป็นปลาก็เรียกยำปลา ถ้าเป็นเห็ดก็เรียกยำเห็ด เป็นอาหารของคนเหนือ ลักษณะคล้ายแกง แต่ที่เรียกว่ายำ เพราะวิธีการปรุงนั้นเป็นลักษณะการยำ แต่มีการใส่น้ำเติมเข้าไป

ที่มา : http://www.ปลาย่าง.com/ความเป็นมาในการทำปลาย่าง/

https://www.matichon.co.th/local/news_191989

PDF